โดยปกติแล้วเรามักจะใช้น้ำมันหอมระเหยในการนวดเพื่อผ่อนคลายร่างกาย แต่ลองสังเกตดูสิว่าหลังจากที่เราชะโลม
น้ำมันแล้วนวดคลึงลงบนผิวแล้ว นอกจากความผ่อนคลายเรายังได้ผิวที่นุ่มเนียนเปล่งปลั่งกลับมาด้วยทุกครั้ง เพราะ
น้ำมันเหล่านี้มีสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมผิวที่นุ่มเนียนน่าสัมผัสกว่าการทาครีม
แค่บนผิว อีกทั้งธรรมชาติของน้ำมันหอมระเหยจะเป็นของเหลวที่ไม่ละลายในน้ำ จึงทำให้ล็อคความชุ่มชื่นให้อยู่กับผิว
ได้ยาวนานกว่าครีมทั่วไป ลองมาดูกันว่าน้ำมันชนิดไหนมีประโยชน์กับผิวของเราบ้าง
1. โรสแมรี่
เชื่อไหมว่าน้ำมันโรสแมรี่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ช่วยรักษาโรคผิวหนังได้ น้ำมันชนิดนี้ค่อนข้างนิยมใช้ในสปา
เพราะมันสามารถทำให้ผิวนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหากทำบ่อยๆ ยังช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นด้วย
2. ดอกกุหลาบ
คุณสมบัติหลักๆ ของดอกกุหลาบจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ เวลาที่เราต้องออกไปเจอฝุ่นละอองควันพิษบนท้องถนน ถ้า
ได้นวดบำรุงด้วยน้ำมันดอกกุหลาบก็จะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น แถมยังลดเลือนจุดด่างดำหรือรอยแผลจากสิวได้เป็น
อย่างดี แม้แต่รอยแตกลายบนผิวก็ช่วยสมานได้
3. ตะไคร้
น้ำมันตะไคร้เป็นกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลาย สามารถลดความเครียดสะสมของคุณได้ เมื่อนำมานวดกับผิวก็จะทำให้ผ่อน
คลายเช่นกัน และคุณสมบัติพิเศษของเจ้าน้ำมันตะไคร้ก็คือ ช่วยดับกลิ่นกายได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อ
ออกมากที่สุดเลยนะคะ
4. ลาเวนเดอร์
ปิดท้ายด้วยน้ำมันหอมระเหยที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวอย่างยิ่ง ใครที่มีผิวแห้งแนะนำให้นวดน้ำมันลาเวนเดอร์
หลังอาบน้ำก่อนนอน ตื่นขึ้นมายามเช้าคุณจะสัมผัสได้ว่าผิวยังนุ่มเนียนไม่แห้งแตก และยังช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสีย
ระหว่างหลับได้อีกด้วยค่ะ