บางครั้งชีวิตคนเราก็วุ่นวายมากจนเราลืมที่จะชื่นชมความมหัศจรรย์ของร่างกายซึ่งมีหลอดเลือดยาวกว่า 60,000 ไมล์และจะผลิตเซลล์ใหม่จำนวน 25 ล้านเซลล์ในทุกๆวินาที และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเซลล์ต่างๆนับล้านล้านเซลล์ในร่างกายนั้นถูกสร้างขึ้นจากคาร์บอน ไนโตรเจน และออกซิเจน เช่นเดียวกับดาวที่ส่องแสงเจิดจ้าเมื่อพันล้านปีก่อน ที่สำคัญเซลล์เหล่านี้ยังต้องการวิตามินดีในการเจริญเติบโตด้วยเหมือนกัน
วิตามินดี = แสงแดด
เราไม่สามารถรับวิตามินดีจากอาหารได้ในปริมาณที่เพียงพอ แต่เราสามารถรับได้จากแสงแดด จากนั้นคลอเลสเตอรอลจะช่วยเปลี่ยนแสงแดดให้กลายเป็นวิตามินดีที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ วิตามินดีจะละลายในไขมันและน่าจะเป็นฮอร์โมนมากกว่าวิตามินเนื่องจากคอยควบคุมทางเดินต่างๆในร่างกาย วิตามินดี (กับฮอร์โมนไทรอยด์) เป็นฮอร์โมนเพียงสองชนิดที่เซลล์ต้องการ และนี่คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ของทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิตามินดี
1. ระงับความเศร้า
นี่คือหนึ่งในเหตุผลของ “ภาวะซึมเศร้าในช่วงฤดูหนาว” เนื่องจากปริมาณแสงแดดที่ลดลง ระดับวิตามินดีต่ำจะทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 และอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ! เห็นแล้วใช่ไหมว่าวิตามินดีสำคัญอย่างไร
2. ลดหอบหืด
การศึกษาชี้ว่าการบริโภควิตามินดีของคุณแม่ตั้งครรภ์จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของทารกในการเป็นโรคหอบหืดได้มากถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้วิตามินดียังช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนได้อีกด้วย
3. สร้างสมดุลให้แก่ระบบภูมิคุ้มกัน
วิตามินดีเป็นส่วนประกอบสำคัญในการปรับสมดุลให้แก่ระบบภูมิคุ้มกัน ระดับวิตามินดีต่ำจะเกี่ยวข้องกับโรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรคปลอกประสาทอักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคเบาหวานประเภท 1 โรคลำไส้อักเสบ ปัญหาต่อมไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง (เช่น โรคฮาชิโมโตะและโรคไขข้ออักเสบ) แต่ถ้ามีระดับวิตามินดีที่เหมาะสมก็จะทำให้อาการดีขึ้น
4. เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
วิตามินดีจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพและเพิ่มความแข็งแรงให้แก่กระดูก
5. กระตุ้นสมอง
ระดับวิตามินดีต่ำจะทำให้หน่วยความจำลดลงและเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคสมอง เช่น อัลไซเมอร์
6. ต้านมะเร็ง
ผู้ที่มีระดับวิตามินดีเหมาะสมจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านม ต่อมลูกหมาก ลำไส้ใหญ่ รังไข่ และตับอ่อน แถมยังป้องกันการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้มากถึงร้อยละ 50 ด้วย!
7. เพิ่มภาวะเจริญพันธุ์
ระดับวิตามินดีที่เหมาะสมจะทำให้อสุจิแข็งแรงและช่วยเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์
8. ปกป้องหัวใจ
ระดับวิตามินดีต่ำและการได้รับแสงแดดลดลงอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวายและโรคสมองขาดเลือด
9. ระงับอาการอักเสบ
วิตามินดีสามารถระงับอาการอักเสบรุนแรงได้หลายทาง
10. เพิ่มพลังในการเผาผลาญ
การศึกษาหนึ่งพบว่าการรับประทานวิตามินดีเสริมติดต่อกัน 12 สัปดาห์จะช่วยลดไขมันในร่างกายได้ถึงร้อยละ 7 ขณะที่ระดับวิตามินดีต่ำอาจทำให้เป็นโรคอ้วนลงพุงซึ่งเป็นอาการตั้งต้นของโรคเบาหวานชนิดที่ 2
11. เพิ่มสมรรถภาพทางกาย
การเสริมวิตามินดีจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่กล้ามเนื้อและสมรรถภาพทางกาย นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลและลดการเสื่อมสภาพได้มากถึงร้อยละ 20 ด้วย
12. ปรับปรุงคุณภาพการนอน
ระดับวิตามินดีที่ดีที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับ
นี่คือแผนการดำเนินชีวิตเพื่อเพิ่มวิตามินดี
1. ตรวจระดับวิตามินดี
ระดับวิตามินที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 60-80 ซึ่งขึ้นอยู่กับตัวบุคคล
2. ออกไปโดนแดดบ้าง!
การใช้เวลาอยู่กลางแจ้งประมาณ 20-60 นาที (ขึ้นอยู่กับสถานที่และโทนสีผิวของคุณ) เป็นอีกวิธีที่ดีในการเพิ่มระดับวิตามินดี
3. วิตามินดีที่เหมาะสมจากอาหาร
น้ำมันตับปลา : 1 ช้อนชา : 440 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันมากกว่าร้อยละ 100)
ปลาซาร์ดีน : 3 ออนซ์: 164 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 41)
ปลาแซลมอน : 3 ออนซ์ : 400 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 100)
ปลาทะเลแม็กเคอเรล : 3 ออนซ์ : 400 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 100)
ปลาทูน่า : 3 ออนซ์ : 228 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 57)
นมสดจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า : 1 ถ้วย : 98 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 24)
ไข่ปลาคาร์เวียร์ : 1 ออนซ์ : 33 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 8)
ไข่ออร์แกนิก : 1 ฟองใหญ่ : 41 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 10)
เห็ด : 1 ถ้วย : 2 IU (ปริมาณที่แนะนำต่อวันร้อยละ 1)
4. อาหารเสริมตามความเหมาะสม
บางครั้งอาหารเสริมก็เป็นสิ่งจำเป็น โดยทั่วไปคุณสามารถเสริมวิตามินดีเริ่มจากระดับใดก็ได้ระหว่าง 2,000-6,000 IU เนื่องจากวิตามินดีละลายในไขมันได้ ฉันจึงชอบหยดหรือใส่แคปซูลที่มีกรดไขมันอิ่มตัวชนิดโมเลกุลปานกลางหรือน้ำมันมะพร้าวและที่สำคัญต้องไม่มีสารเติมแต่งหรือสีใดๆทั้งสิ้น และควรตรวจระดับวิตามินดีทุกๆ 2-3 เดือนเพื่อไม่ให้สูงเกินไป วิตามินดีควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
5. ประโยชน์ของการทำงานร่วมกันของวิตามิน
เมื่อได้รับวิตามินดีในระดับที่เหมาะสมแล้ว คุณควรเพิ่มวิตามินละลายในไขมันตัวอื่นๆด้วย เช่น วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินเค2 ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลให้แก่วิตามินดีทำให้ออกฤทธิ์และดูดซึมได้ดีในร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามินละลายในไขมันเหล่านี้ด้วย