3 สูตร DIY “มะขามเปียก” ช่วยผิวขาวสวยแบบไทยๆ


มะขามเปียก เป็นสมุนไพรคู่ครัวไทย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะกับผิวพรรณของเรา วิตามินซีจากมะขามจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ช่วยให้ผิวหนังที่มีรอยดำคล้ำกลับมาขาวสดใสนุ่มนวลยิ่งขึ้น ซึ่งวันนี้สดสวยก็มี 3 สูตร DIY โดยนำมะขามเปียกมาดูแลผิวเป็นหลัก จะเวิร์คขนาดไหนไปลองดูกันค่ะ

ทริคก่อนเริ่มทุกสูตร

ก่อนจะเริ่มต้นผสมทุกสูตรต้องนำมะขามเปียกจำนวน 1 ก้อนเล็กๆ ไปแช่น้ำอุ่น 1 / 4 แก้ว ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นคั้นเนื้อมะขามจนได้เนื้อครีมเหลวๆ แยกกากทิ้งไป จากนั้นเติมส่วนผสมต่างๆ ไปได้เลย มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ


สูตร 1

มะขามเปียก + น้ำมะนาว + ผงขมิ้น + โยเกิร์ต + น้ำผึ้ง
เติมส่วนผสมต่างๆ ลงไปในมะขามเปียกที่ได้ เริ่มจากเติมน้ำมะนาวลงไป 1 ช้อนชา ผงขมิ้น 1 ช้อนชา โยเกิร์ต 2 ช้อนชา และน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น

สูตร 2

มะขามเปียก + นมสด + น้ำอุ่น
เหมือนเดิมเลยค่ะ เติมนมสดลงไปในมะขามเปียก 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน ผสมน้ำอุ่นเล็กน้อย จากนั้นนำไปใช้พอกใบหน้า ลำตัว แขาและขา ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จะช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่มีรอยดำคล้ำกลับมาขาวสดใส และนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

สูตร 3

มะขามเปียก + ดินสอพอง
เติมดินสอพองลงไปในมะขามเปียก 1-2 เม็ด ผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับสดใสและสะอาดยิ่งขึ้น

ครบสามสูตร DIY แบบไทยๆ กันแล้วนะคะ สาวๆ ชอบสูตรไหนลองกันได้เลย หรือจะลองทุกสูตรก็ได้นะ สูตรไหนเวิร์คอย่าลืมบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะคะ :)


ผิวเนียนสวยไร้เซลลูไลท์ด้วย 3 เคล็ดลับนี้เท่านั้น!




เซลลูไลท์หรือคำที่เราคุ้ยเคยอย่างผิวเปลือกส้ม มันสร้างความอับอายเวลาเราจะนุ่งสั้น หรือต้องใส่ชุดว่ายน้ำขึ้นมาสักครั้งจริง ๆ แบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ เราต้องเอาชนะมันค่ะ เริ่มจากเคล็ดลับง่าย ๆ แบบนี้ เพื่อกำจัดเซลลูไลท์ให้หมดไป และนี่ไม่ใช่ปัญหาของสาวอวบเท่านั้นนะ ผอมเพรียวแค่ไหนก็มีเซลลูไลท์ได้จ้า เพราะฉะนั้นมากำจัดมันกันเลยดีกว่า


ออกกำลังกาย

แน่นอนว่าการออกกำลังกายเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด แถมยังจีรังยั่งยืนด้วยนะคะ ซึ่งเราควรมุ่งเน้นการออกกำลังกายเฉพาะส่วน เนื่องจากเซลลูไลท์มักจะมีขึ้นมาตามร่างกายเพียงไม่กี่จุด เช่น ต้นขา สะโพก หรือก้น และตามข้อพับต่าง ๆ จะเป็นการช่วยสลายเซลลูไลท์แบบเฉพาะจุดได้อย่างดีเยี่ยม โดยวิธีการออกกำลังกายที่แนะนำ ได้แก่ การสควอทเพื่อให้ก้นและต้นขากระชับ การเล่นโยคะที่มีท่าเพื่อลดแขน และขา เป็นต้นค่ะ

ควบคุมอาหาร

วิธีควบคุมอาหารของแต่ละคนแตกต่างกันค่ะ ออกกำลังให้ตาย ถ้าไม่ควบคุมอาหาร ก็ยากที่จะบรรลุเป้าหมายในการกำจัดเซลลูไลท์ได้ค่ะ อันดับแรกเราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบทั้ง 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน หรือมีน้ำตาลสูงอย่างเด็ดขาด รวมถึงไขมันสูง ๆ ด้วยค่ะ พวกของทอดของมันนี่ลดลงได้เลย ใครที่ไม่สะดวกอาหารคลีนก็เลือกประเภทอาหารก็ได้ค่ะ

นวดสลายเซลลูไลท์

การนวดการสครับมีผลกับเซลลูไลท์นะคะขอบอก การนวดนอกจากจะช่วยสร้างความผ่อนคลายจากการเหนื่อยล้าได้ดีแล้ว ยังช่วยสลายเซลลูไลท์ตามส่วนต่าง ๆ ได้อีกด้วย ยิ่งถ้าใช้ตัวช่วยในการนวดอย่างพวกครีมสลายเซลลูไลท์ก็ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องเลือกครีมนวดที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐานการผลิตด้วยเช่นกัน

แค่เคล็ดลับง่าย ๆ แบบนี้ก็มีเรียวขาสวย ๆ กับเขาได้แล้ว ที่เหลืออยู่ที่ความพยายามของแต่ละคนแล้วจ้า บอกเลยว่าเรียวขาสวย ๆ อยู่ใกล้แค่เอื้อมจริง ๆ ค่ะ


สูตรมาส์กผลไม้แบบไทยๆ ช่วยผิวใสและดูขาวขึ้น


อยากให้ผิวกระจ่างใสไม่หมองคล้ำ เรามาลองทำตามเคล็ดลับนี้กันดีกว่าค่ะ ถ้าใครอยากลองสูตรธรรมชาติ สดสวยเลือกผลไม้ 3 ชนิดมาบอกต่อ ขอแค่มีเวลาดูแลผิว รับรองว่าผิวสดใส ใบหน้าเปล่งปลั่งอย่างแน่นอนค่ะ ครั้งนี้วิธีการทำเราจะนำผลไม้มาทำเป็นมาส์กสด ๆ กันค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามันน่าสนุกขนาดไหน




มะละกอสุก + กล้วยหอม

สูตรนี้สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก และยังช่วยให้ผิวดูชุ่มชื่น มีความนุ่มนวลมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยขจัดความมันบนใบหน้าได้ด้วย เพื่อให้ได้ผลมากที่สุดควรเลือกใช้มะละกอที่สุกงอมและมีรสหวาน แล้วเตรียมกล้วยหอมบด น้ำผึ้ง น้ำมะนาว นำมาผสมรวมกับเนื้อมะละกอที่บดละเอียดแล้ว จากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า แล้วทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะเห็นความใสของใบหน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ หากใช้เป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับรองว่าการสครับผิวจะกลายเป็นเรื่องง่ายแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมีอันตรายอีกต่อไป

สับปะรด

เลือกสับปะรดที่มีรสเปรี้ยวมาใช้ในการสครับผิวหน้าก็จะยิ่งช่วยในเรื่องผลัดเซลล์ผิว มาเริ่มกันเลยค่ะ นำเนื้อของสับปะรดมาปั่นให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำแล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด นำสำลีชุปน้ำสับปะรดแล้วนำมาแปะบนใบหน้าให้ทั่ว จากนั้นนำกากสับปะรดที่แยกไว้มาพอกทับอีกชั้นหนึ่ง ทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้เป็นประจำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง รับรองว่าใบหน้าจะใสและเนียนนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ส้มเขียวหวาน

ส้มเขียวหวานเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีสารที่ช่วยกระตุ้นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นปัญหาของการเกิดสิว เพียงแค่นำส้มมาคั้นแล้วนำน้ำที่ได้มาทาให้ทั่วใบหน้า ก็จะช่วยบำรุงผิวให้ดูขาวเนียน ลบรอยแห้งกร้าน ขจัดความหมองคล้ำของผิวที่เคยมี ให้ดูขาวกระจ่างใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า ให้กลายเป็นสาวผิวใสและอ่อนกว่าวัยได้อีกด้วยค่ะ

วิธีการง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะคะ ใครอยากมีผิวสดใสเปล่งปลั่ง และชอบสูตรสด ๆ จากธรรมชาติ ลองทำตามกันได้เลยค่ะ



3 เคล็ดลับดูแล BAREFOOT เปลือยเท้าแบบไม่อายใคร

งงกันใช่ไหมว่าทำไมต้องมองเท้ากันด้วย อ๊ะ ๆ อย่าคิดว่าเท้าของเราไม่จำเป็นต้องดูแลนะคะ การที่เราเท้าขาว ผิวเนียน ไม่มีการแห้งแตก มันทำให้เราใส่รองเท้าอะไรก็สวยค่ะ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบใส่รองเท้าแตะหนีบก็ยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษเลย วันนี้สดสวยนำเคล็ดลับการบำรุงผิวเท้าของเราให้สวยสุขภาพดีมากฝากกันแล้ว ทำตามไปพร้อมกันเลยค่ะ


ขัดผิวเท้า

เตรียมแปรงขัดเท้ากับสบู่เอาไว้ แล้วหมั่นขัดเท้าให้ทั่วทุกซอกมุม ทั้งเล็บเท้าด้วยนะคะ การขัดเท้าด้วยแปรงจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เท้าของเรามีกลิ่นได้ ดังนั้นต้องทำเป็นประจำค่ะ ผิวสวยอย่างเดียวไม่ได้ต้องสะอาดด้วยนะคะ

สครับเท้า

มองหาสครับเนื้อละเอียดแล้วเริ่มปฏิบัติการสครับผิวได้เลยค่ะ การสครับผิวเท้าสัปดาห์ละครั้งจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพของเท้าให้หลุดออก ซึ่งจะทำให้เท้าเราดูขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ

นวดเท้า

เตรียมน้ำมันมะพร้าวเลยค่ะ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการนวดด้วยน้ำมันธรรมชาติแบบนี้อีกแล้ว ผิวเท้าของเราก็ต้องการความชุ่มชื่นสูงเช่นกัน ดังนั้นนำน้ำมันมะพร้าวมานวดให้ทั่วเท้าค่ะ จากนั้นนำผ้าขนหนูอุ่น ๆ พอเหมาะห่อเท้าเอาไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที คุณก็จะได้ผิวเท้าที่เนียนนุ่มเป็นรางวัลค่ะ

 แค่ 3 เคล็ดลับ สัปดาห์ละครั้ง หรือถ้าใครมีเวลามากกว่านั้นก็บำรุงบ่อย ๆ ก็ได้นะคะ อย่าลืมว่าเราใช้งานเท้าทุก ๆ วัน หมั่นดูแลให้สวยเท่ากับส่วนอื่น ๆ ด้วยนะคะ




4 วิธีดูแลผิวตอนเช้า เพื่อกู้สภาพผิวให้กลับมาสุขภาพดี



ถ้าอยากให้ผิวของเราดูดีกันไปนาน ๆ มาดูวิธีการดูแลผิวหน้าที่ควรทำเป็นประจำทุกเช้ากันค่ะ ผิวจะสวยแบบสุขภาพดีแบบที่ออกมาจากภายใน

1.ขยับใบหน้าตอนเช้า

ในช่วงเวลาที่ตื่นขึ้นมา อย่าเพิ่งลุกกันนะคะ มากระชับใบหน้าให้กระชับกันสักนิดด้วยการขยับใบหน้า โดยเริ่มจากการหลับตาแล้วลืมตาขึ้นมา ก่อนจะยกหัวคิ้วให้ขยับขึ้นทำซ้ำประมาณ 3 ครั้ง จากนั้นอ้าปากกว้าง ๆ แล้วหุบลงทำซ้ำอีก 3 ครั้ง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีค่ะ

2.ดื่มน้ำตอนเช้า

หลังจากลุกจากเตียงแล้วก็ไปดื่มน้ำเปล่าสะอาด ๆ อุณหภูมิห้องสักแก้วหนึ่งก่อนทำธุระส่วนตัวนะคะ การดื่มน้ำเปล่าในตอนเช้าแบบนี้ เพื่อชดเชยน้ำที่เสียไปในตอนนอนและเป็นเหมือนการดีท็อกซ์ลำไส้ด้วยค่ะ

3.ล้างหน้าทำความสะอาดผิว

สาว ๆ ที่เป็นสาวผิวแห้งสามารถล้างเฉพาะส่วนของ T-Zone เพื่อเอาน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าออกได้นะคะ หากเป็นสาว ๆ ที่ผิวมันก็สามารถล้างได้ทั้งหน้า แต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวกันด้วยนะคะ

4.มาส์กผิว

เปลี่ยนจากตอนกลางคืนมาเป็นตอนเช้าจะช่วยทำให้แต่งหน้าติดผิวมากขึ้น มาสก์ด้วยแผ่นมาส์กแค่ 10-15 นาทีแล้วถอดออกได้เลย เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวแบบประหยัดเวลาอีกด้วยค่ะ

ทำแบบนี้เป็นประจำทุกวันก็ช่วยให้ผิวเราเปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื่นขึ้นแน่นอนค่ะ 


ผิวขาวใครว่าไม่มีปัญหาเรื่องเมคอัพ! 4 ปัญหาที่คนผิวขาวเองก็ยังไม่รู้

ผิวขาวเป็นสีผิวที่ใคร ๆ ก็อยากครอบครอง โดยเฉพาะสาวไทยแบบเรา ๆ ทำยังไงก็หาคนอินกับผิวเข้มน้อยอยู่ดี แต่ทีนี้ผิวขาวก็ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรแล้วดูดีไปซะหมดนะ มันก็ต้องมีจุดพลาดกันบ้าง บางอย่างมันไม่เข้ากันกับสาว ๆ ผิวขาวเลยจริง ๆ งั้นมาดูกันว่าผิวขาวไม่เหมาะกับอะไรหรือเหมาะกับอะไรบ้าง




1.อายแชโดว์สีอ่อน… ต้องยอมแพ้

ผิวขาวคงจะต้องเก็บอายแชโดว์สีอ่อนไปก่อนเลยค่ะ เพราะมันจะกลืนไปกับผิวเหมือนไม่ได้แต่ง เต็มที่ก็อาจจะใช้สีน้ำตาลอ่อนได้อยู่ แต่ถ้าถึงขนาดสีขาวหรือกลิตเตอร์บาง ๆ อาจจะมองไม่เห็นได้ค่ะ

2.ลิปนู้ดสุดอิน แต่ขาวๆ ทาแล้วเอาท์

สาว ๆ ผิวขาวโยนลิปสติกสีนู้ดไปได้เลย ยกเว้นว่าวันนั้นคุณจะแต่งหน้าเข้ม บล็อกตาโตอะไรประมาณนั้นแหละ ถ้าไม่ได้ทำแบบนั้นงดลิปสติกสีอ่อนหรือโทนนู้ดไปเลยดีกว่า เพราะมันจะทำให้คุณดูจืดเกินไป

3.อายไลน์เนอร์ดำทำให้ดูแข็งๆ

ปกติเราจะใช้มาสคาร่า อายไลเนอร์สีดำกันใช่ไหมล่ะ ถ้าอยากลองทำเป็นลุคใส ๆ แนะนำให้เลือกใช้สีน้ำตาลดูนะ เพราะสีดำมันจะตัดกับสีผิวชัดเจน หน้าอาจจะดูดุเกินไป สีน้ำตาลจะทำให้หวานใสขึ้นค่ะ

4.บรอนเซอร์เบอร์แรง ไม่รอดนะ!

อยากจะให้ทรงหน้าสวยสะดุดตาแบบสาย ฝ. สำหรับสาวผิวขาวอาจจะต้องระวังเรื่องสีบรอนเซอร์หน่อยนะคะ ถ้าสีเข้มกว่าผิวมากเกินไปมันจะดูประหลาดและไม่งามเลยล่ะ ใครผิวขาวมาก ๆ แนะนำสีน้ำตาลอ่อนดีที่สุดค่ะ

 เห็นไหมล่ะว่าบางอย่างก็ไม่ได้เหมาะกับผิวขาว ๆ ไปเสียหมด ใครที่ผิวขาวควรงดอะไรแบบนี้แล้วเปลี่ยนเพื่อให้เราดูดีขึ้นดีกว่านะคะ



4 ขั้นตอนทาลิปสติกแล้วสีไม่เพี้ยน

น่าสงสารสาว ๆ ที่ริมฝีปากคล้ำเสียจริง เวลาทาลิปสติกทีไรไม่เคยได้สีดังใจเลย อุตส่าห์เลือกมาเสียดิบดี แต่พอทาบนริมฝีปากของเราเข้าจริง ๆ ดันไม่ใช่สีที่ต้องการ นั่นเป็นเพราะพื้นสีบนริมฝีปากเรานั่นแหละค่ะ ตัวการทำให้สีผิดเพี้ยน ดังนั้นมาดูเคล็ดลับการดูแลและทาลิปสติกให้ได้สีที่เราอยากได้ค่ะ



1.ขัดด้วยแปรงสีฟัน

แปรงสีฟันนี่แหละ ง่ายที่สุดเลยค่ะ หลังแปรงฟันทุกครั้งก็ให้ใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆ ที่ริมฝีปาก เพื่อเป็นการสครับปากผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพและคราบลิปเก่า ๆ ที่ติดออกให้หลุดไป ไม่มีเหลือตกค้างและไม่ทำให้ปากคล้ำในระยะยาว ปากจะนุ่มอมชมพูสุขภาพดีขึ้นด้วย เพราะเหมือนไปกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนบริเวณริมฝีปากค่ะ

2.บำรุงริมฝีปาก

ใช้ลิปบำรุงแก้ปากคล้ำ ที่ช่วยลดเม็ดสีคล้ำๆ หรือปรับสีปากให้ดูอมชมพูขึ้น หรือจะเป็นลิปบาล์มธรรมดา ปิโตรเลียมเจล สีฝึ้งอะไรพวกนี้ก็ได้ และควรทาก่อนลงลิปทุกครั้งด้วยค่ะ เพื่อเป็นการเตรียมริมฝีปากให้นุ่มชุ่มชื้นและทาลิปง่ายขึ้น

3.ลงคอนซีลเลอร์

ขั้นตอนสำคัญเลย ถ้าไม่อยากให้สีลิปสติกผิดเพี้ยน คอนซีลเลอร์ช่วยได้ ทาเพื่อกลบขอบปากและสีปาก ให้ทาลิปสติกออกมาแล้วได้สีที่ใกล้เคียงกับสีลิปมากที่สุดนั่นเอง ใช้นิ้วก็เอานิ้วแตะๆ คอนซีลเลอร์ลงบางๆ ให้ทั่วปากได้เลย หรือจะใช้แปรง ฟองน้ำ ก็ได้ค่ะ แต่แนะนำให้บำรุงอย่างที่บอกก่อน เพราะนึกสภาพริมฝีปากแห้งแตก คอนซีลเลอร์ก็คงจะแห้งตกร่องตามไปด้วยค่ะ

4.ทาลิปสติก

ทีนี้ชอบสีไหนก็เอามาทาได้เลย ถ้าใช้แปรงจะยิ่งสวยเนียนขึ้นไปอีก แถมยังติดทนกว่าด้วย ทาทับคอนซีลเลอร์ที่ทาไว้ขั้นตอนที่แล้วได้เลย จะเห็นได้ว่าสีปากค่อนข้างตรงและชัดเจนขึ้นอย่างที่อยากได้ค่ะ

ครบ 4 ขั้นตอนในการแต่งริมฝีปากให้สวยกันแล้ว หมดปัญหาน่ากังวลเรื่องสีลิปสติกเพี้ยนกันแล้วเนอะ


แก้ปัญหาผมเสียด้วยสูตรกะทิ + มะนาว

ยุคนี้ผู้หญิงที่ไหนก็ทำสีผม ยืด ดัด สารพัดอย่างเพื่อความงามทั้งนั้นแหละเนอะ ไหนจะแสงแดดที่สาดส่องมายังเส้นผมของเราทุกวัน แล้วมลภาวะต่าง ๆ อีกล่ะ ทำเอาผมของเราแห้งกรอบไปแบบแก้ไขอยาก แต่ถ้าเรามีเวลาว่างก็หมั่นดูแลเส้นผมกันหน่อยดีกว่าค่ะ บางคนเลือกเข้าไปทำสปาเส้นผม แต่บางคนก็เลือกจะดูแลเส้นผมด้วยวิธีธรรมชาติด้วยตัวเอง วันนี้สดสวยก็เลยนำสูตรหมักผมมาแชร์ แก้ปัญหาผมเสียให้กลับมาสวยได้ค่ะ

หมักผมด้วยน้ำกะทิและน้ำมะนาว

มะนาวนอกจากจะช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนใส ยังช่วยบำรุงผมให้นุ่มสลวยเงางามเป็นธรรมชาติ และช่วยจัดการปัญหาผมเสียอย่างได้ผล ไม่ว่าจะเป็นช่วยรักษาผมแตกปลาย ช่วยขจัดรังแค และช่วยลดเส้นผมขาดร่วง น้ำมันจากมะนาว ยังมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านแบคทีเรีย สามารถทำความสะอาดและคืนสมดุลให้กับหนังศีรษะและเส้นผมให้มีสุขภาพดี การหมักผมด้วยสูตรนี้ จึงช่วยให้ผมมีน้ำหนักและตรงสวยมากขึ้น แต่ทั้งนี้ควรเลือกใช้มะนาวที่มีผิวสีเขียวสด เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นค่ะ


สิ่งที่ต้องเตรียม 

  • หัวกะทิ 2 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1 ลูก

วิธีทำหมักผม

  1. นำหัวกะทิและน้ำมะนาวมาผสมจนเข้ากัน แล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  2. จากนั้นจะเห็นว่าส่วนผสมแยกออกเป็น 2 ชั้น เป็นชั้นครีมของกะทิที่เข้มข้น และชั้นน้ำใส ๆ ให้ตักเอาเฉพาะส่วนที่เป็นครีมเข้มข้น นำมาชโลมให้ทั่วเส้นผม
  3. หมักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
  4. ล้างออกด้วยน้ำเปล่า จากนั้นก็สระผมตามปกติค่ะ
ถึงแม้สูตรนี้จะไม่ได้ทำให้ผมแห้งเสียหายดีในทันที แต่ถ้าทำบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้เส้นผมฟื้นฟูดีขึ้นและกลับมาสุขภาพดีดังเดิมได้ค่ะ


3 สูตรแก้เล็บเหลืองจากมะนาว

ปัญหาเล็บเหลืองนอกจากเรื่องของโรคภัยแล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากการทาเล็บบ่อยจนเกินไป ใช้ยาทาเล็บที่ไม่มีคุณภาพ ถ้าไม่ใช่ปัญหาจากโรคเรายังพอมีการบำรุงเพื่อฟื้นฟูได้ค่ะ แค่ทำตามสูตรนี้อย่างสม่ำเสมอ เวลาหนุ่ม ๆ เขาจับมือจะได้ไม่ตกใจไงล่ะคะ

3 สูตรแก้เล็บเหลืองจากมะนาว


สูตรที่ 1:

  • เตรียมน้ำอุ่นใส่อ่าง ใส่มะนาวหั่นแว่นลงไปในน้ำอุ่น
  • จากนั้นให้แช่มือหรือเท้าในอ่าง ประมาณ 5-10 นาที
  • แล้วล้างออกให้สะอาด อย่าลืมทาครีมบำรุงสำหรับมือและเล็บให้นุ่มเนียนขึ้นด้วยนะคะ

สูตรที่ 2:

  • นำเปลือกมะนาวที่บีบน้ำออกหมดแล้ว มาถูที่เล็บให้ทั่ว
  • ปล่อยทิ้งเอาไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • ควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

สูตรที่ 3:

  • นำน้ำอุ่นใส่ในถ้วยแล้วบีบน้ำมะนาวครึ่งลูก
  • จากนั้นหยดลาเวนเอร์ออย 2 หยดลงไป คนให้เข้ากัน
  • แล้วแช่เล็บที่เหลืองลงไปขัดในน้ำ
  • ล้างมือให้สะอาด จากนั้นทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับมือและเล็บตบท้ายค่ะ

เคล็ดลับง่ายเลือกวิธีไหนก็ได้ตามที่ชอบเลยค่ะ แล้วมือและเล็บของเราก็จะกลับมาสดใสอมชมพูน่ามองเหมือนเดิม


ทริคแต่งหน้าให้ติดทน แบบไม่หลุด สำหรับมือใหม่

คนที่แต่งหน้าออกข้างนอกเป็นประจำคงเคยเจอกับปัญหาพอเจออากาศร้อนๆ เหงื่อออกระหว่างวัน เมคอัพก็หลุดเละเลอะไปหมด แถมบางคนพอเหงื่อออกเมคอัพก็เปลี่ยนสีทำให้ผิวดูหมองลงอีกด้วย วันนี้สดสวยเลยมาแนะนำเคล็ดลับล็อกเมคอัพให้อยู่หมัด ลองมาดูเคล็ดลับกันค่ะว่าถ้าแต่งหน้าแล้วเหงื่อออกระหว่างวันจะทำวิธีไหนได้บ้าง


ซับด้วยกระดาษทิชชู

เน้นว่าซับออกนะคะ ซับเหงื่อออกไม่ใช่ซับเมคอัพออก เพราะฉะนั้นเราจึงต้องเลือกกระดาษทิชชูที่หนานุ่มงานดี แล้วค่อย ๆ ซับเอาเหงื่อที่ทำให้เมคอัพเลือนออก ไม่ว่าจะเหงื่อออกมาเป็นหยดๆ จนหน้าเปียกชุ่ม หรือแค่ซึมๆ จำไว้เลยว่าห้ามปาด ห้ามถู แล้วผิวก็จะสบายขึ้นค่ะ

สเปรย์น้ำแร่

บางครั้งเวลาเหงื่อออกก็ชอบเกิดปฏิกิริยากับเครื่องสำอางทำให้เมคอัพเปลี่ยนสีดูหน้าหมองๆ ลง ถ้าอยากแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ลองใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดพรมเบาๆ ทิ้งไว้สักพัก แล้วก็ใช้ทิชชูซับออกค่ะ หลังจากทำแล้วจะเหมือนเติมออกซิเจนให้ผิวไปในตัว

เติมเมคอัพ

หลังจากทำตามขั้นตอนทุกอย่างแล้ว ก็อดใจรอให้ผิวหน้าแห้งสนิทก่อน แล้วก็ลงมือเติมเครื่องสำอางทัชอัพลงไปอีกครั้งได้เลยค่ะ เติมเฉพาะจุดที่เลือนก็ได้ เช่นบริเวณหน้าผาก ทีโซน ส่วนใหญ่แล้วบริเวณนี้มักจะถูกเหงื่อและความมันดึงเมคอัพออกไป แตะแป้งลงไปปัดให้พอเนียนๆ แล้วก็ปัดบลัชออนนิดๆ เติมลิปสติกเบาๆ แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ

ทำแบบนี้ถือว่าง่ายมากเลยเนอะ แบบนี้เหงื่อออกเมื่อไหร่เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเมคอัพหลุดแล้วล่ะค่ะ :)


3 อย่างรู้กัน กินแบบนี้ช่วยลดสิว



อีกหนึ่งวิธีในการรักษาสิวก็คือการเลือกกินอาหารที่ช่วยลดสิวให้เราได้นะคะ บางคนไม่รู้หรอกว่าการกินตามใจปากมันส่งผลกับผิวของเรายังไง อยากกินอะไรก็จัดไปแบบไม่คำนึงถึงเรื่องผิว แต่รู้ไหมว่าอาหารเป็นตัวการสำคัญที่สามารถชี้ชะตาเรื่องผิว ๆ ของเราได้พอสมควรเลยนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าใครเป็นสิวอยู่ ลองดูเลยว่าอาหารประเภทไหนที่ควรงดในช่วงนี้ค่ะ

1.แป้งขัดขาว

แป้งหรือขนมปังที่เราเห็นขาว ๆ นั่นแหละค่ะ แป้งแบบนี้ได้ถูกขัดเอากากใยอาหารออกไปแล้ว จนเหลือแต่แป้งที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากให้สิวหายเร็วๆ ลองเปลี่ยนมาทาน ข้างกล้องหรือขนมปังโฮลวีตแทนจะดีกว่าค่ะ

2.ลดนมวัว

ฮอร์โมนหลายชนิดในนมวัว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสิวได้นะคะ แต่เราไม่ได้ห้ามดื่มนะคะ อาจจะลองเปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลือง หรือพร่องมันเนยดูก็ได้ เฉพาะในช่วงที่เป็นสิวอักเสบเท่านั้นค่ะ

3.ลาก่อนน้ำตาล

ของหวานต่าง ๆ เราควรเซย์กู้ดบาย ไม่ใช่ว่าเฉพาะตอนเป็นสิวหรอกนะคะ แต่คนที่กำลังเจอปัญหาสิวควรงดของหวานที่มีน้ำตาลสูงสักพัก เพราะน้ำตาลทำให้อินซูลินไปกระตุ้นฮอร์โมนอื่นๆ ในร่างกายที่ทำให้เกิดสิวได้ค่ะ


โยเกิร์ต + มะนาว สูตรปรับผิวคล้ำแดดให้กระจ่างใสขึ้น

ผิวขาวก็ยังเป็นเทรนด์ที่ไม่เคยตกไปในกลุ่มสาวไทยที่ต้องเผชิญกับแสงแดดแรง ๆ อยู่ทุกวัน มันไม่เคยชินที่จะยอมพ่ายแพ้ให้กับผิวที่ต้องคล้ำลง วันนี้สดสวยก็เลยหาสูตรดี ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้มาบอกต่อ สูตรนี้ไม่ใช่สูตรแปลกใหม่อะไร แต่อยากบอกว่ามันได้ผลจริง ๆ เพราะสดสวยก็ลองผิดลองถูกมาแล้ว เพียงแค่ต้องหมั่นดูแลใส่ใจผิวอย่างสม่ำเสมอเท่านั้นเอง สูตรนี้ทำง่าย เปิดตู้เย็นก็ทำได้แล้ว ถ้าใครอยากผิวขาวใสแล้วยังนุ่มเนียนเด้ง เตรียมสิ่งเหล่านี้เลยค่ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีบำรุงผิว

  1. นำส่วนผสมทั้งสองอย่างมาผสมให้เข้ากัน ถ้าจะให้ดีเตรียมผิวด้วยการอาบน้ำอุ่นให้สะอาด เพราะการอาบน้ำอุ่นจะเป็นวิธีการเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้นชั่วคราวเพื่อรองรับวิตามินและสารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์จากสูตรพอกโยเกิร์ตนี้
  2. จากนั้นให้พอกโยเกิร์ตผสมมะนาวลงทั่วทั้งผิวกายและผิวหน้า ทุกส่วนที่คุณต้องการให้ขาว
  3. ทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงจนครีมโยเกิร์ตผสมมะนาวแห้ง
  4. ล้างออกด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง
รูขุมขนที่ผิวจะปิดสนิทและรับครีมบำรุงโยเกิร์ตมะนาวไปแบบเต็มที่  ทำสูตรนี้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งผิวจะทั้งขาวเนียนและนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ