สูตรข้าวโอ๊ต+มะนาว ผิวขาวอย่างเป็นธรรมชาติ

สาวๆ คงเคยเห็นใครต่อใครนำข้าวโอ๊ตมาเป็นส่วนผสมในการดูแลผิวอยู่บ่อยครั้ง นั่นเป็นเพราะข้าวโอ๊ตสามารถผลัด
เซลล์ผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่ายสุดๆ วันนี้สดสวยเลยสูตรบำรุงผิวแบบธรรมชาติจากข้าวโอ๊ต
และน้ำมะนาวมาบอกต่อค่ะ
ประโยชน์ดีงามของข้าวโอ๊ตคือสามารถทำความสะอาดน้ำมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และสารปนเปื้อนให้ออกไปจากผิว
หน้าได้ ส่วนประโยชน์ของมะนาว ก็เป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่มีสรรพคุณทำให้ผิวกระจ่างใส เหมาะสำหรับนำมา
ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับพอกหน้าได้เป็นอย่างดี ทั้งสองส่วนผสมนี้จึงเข้ากัน เมื่อนำมาผสมกันก็จะช่วยทำให้ผิวขาว
ใสอย่างเป็นธรรมชาติได้ เพราะมีการดึงเอาเซลล์ผิวเสื่อมสภาพให้หลุดออกและวิตามินซีก็ทำให้ผิวใหม่กระจ่างใส

วิธีทำ

  • นำน้ำสะอาดมาเทใส่ในข้าวโอ๊ตเพื่อให้เกิดความนิ่ม
  • เมื่อได้ที่ก็นำไปบดให้เป็นเนื้อเหลวๆ หรือใครจะนำไปปั่นให้ละเอียดก็ได้ค่ะ
  • พอได้เนื้อข้าวโอ๊ตหนึบๆ แล้วก็บีบมะนาวลงไปประมาณซีกเดียวก็พอค่ะ
  • ผสมทั้งสองอย่างให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 5 นาที
  • จากนั้นล้างออกให้สะอาด ระวังกรดมะนาวอาจทำให้ระคายเคืองได้
หลังจากล้างหน้าแล้วก็บำรุงผิวตามปกติได้เลย ถ้าเราทำสูตรนี้บ่อยๆ ผิวก็จะค่อยๆ กระจ่างใสขึ้นได้ค่ะ




โละปัญหา! ทาลิปสติกแล้ว… ติดฟัน หลุดลอก ลองแก้แบบนี้

อยากจะมีริมฝีปากที่สวยโดดเด่นเหมือนเซเลบริตี้กับเขาบ้าง แต่บางทีมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยนะคะ ทาลิปสติกแต่ละ

ทีต้องเจอปัญหาสารพัดอย่าง เช่น ทาแล้วสีไม่เสมอ ทาแล้วไม่เรียบ  ทาเกินขอบปาก เลอะเทอะไปหมด แบบนี้สดสวย

มีเคล็ดลับมาฝาก ปัญหาการทาลิปสติกพลาดๆ แบบนี้จะหมดไปแน่นอนค่ะ


ลิปสติกติดฟัน

เป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องเจอทุกรายล่ะ เคล็ดลับกำจัดปัญหานี้มันง่ายอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ แค่ทำริมฝีปากเป็นรูปตัว O จะทำให้เราทาลิปได้โดยที่ลิปสติกไม่มาติดฟันแน่นอน ลองดูสิ

ลิปสติกเลอะขอบปาก

มันเป็นเรื่องยากนะที่จะทาลิปสติกให้พอดีรูปปาก โดยเฉพาะว่าใช้ลิปสติกแบบแท่งด้วยแล้ว การคอนโทรลยิ่งยากเข้าไปใหญ่เลย แบบนี้แนะนำให้ใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดก่อนเลยค่ะ เพราะมันจะถนัดกว่า พอได้ตามรูปปากที่ต้องการแล้วก็ทาด้วยลิปสติกสีเดียวกันทับอีกครั้ง แค่นี้ก็หมดปัญหาเรื่องลิปสติกเลอะแล้วค่ะ

ชอบแมตต์แต่ไม่ชอบลิปแมตต์

บางทีเนื้อลิปสติกแบบแมตต์ก็ทำให้ริมฝีปากที่แห้งมากอยู่แล้วดูแห้งชัดเจนไปใหญ่ ใครที่เจอปัญหานี้แนะนำเคล็ดลับนี้ค่ะ เลือกทาลิปสติกที่มีความมันวาวไว้ก่อนในขั้นตอนแรก จากนั้นแนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นเกลี่ยทับลิปสติกเนื้อวาวที่เพิ่งทาไปนั่นแหละค่ะ เพียงแค่นี้เราก็จะได้ลิปแมตต์ที่ไม่แมตต์จนเกินไปแล้วค่ะ

สีลิปสติกหลุดง่าย

ทาไปยังไม่ทันไร ขยับปากไม่กี่รอบสีลิปสติกก็หลุดไปแล้ว ลองเคล็ดลับนี้ค่ะ ทาลิปสติกลงไปครั้งหนึ่งก่อน แล้วเม้มสีลิปสติกกับทิชชู่เบาๆ จากนั้นก็ใช้แป้งฝุ่นทาทับให้ทั่วริมฝีปาก แล้วปิดท้ายด้วยการทาลิปสติกสีเดิมซ้ำลงบนริมฝีปากอีกครั้ง แค่นี้ลิปสติกก็จะติดทนแล้วค่ะ

เคล็ดลับง่ายๆ ง่ายจนเหลือเชื่อเลยใช่ไหมล่ะคะ ต่อไปนี้ริมฝีปากสวยๆ ก็จะเป็นของเราได้ไม่ยากแล้ว ใครเจอปัญหาแบบไหนลองนำเคล็ดลับไปใช้ได้เลยค่ะ


แจกสูตรลอกสิวเสี้ยนขั้นเทพ เปลี่ยนหน้าสิว เป็นหน้าใส!



แจกสูตรลอกสิวเสี้ยนขั้นเทพ เปลี่ยนหน้าสิว เป็นหน้าใส!

หน้ามีแต่สิวเสี้ยน เวลามีใครเดินเข้ามามองเราใกล้ๆ ก็เสียความมั่นใจทันที เรียกว่าเป็นปัญหาใหญ่ของคน ที่รักความสวยความงามเลยทีเดียว

สูตรลอกสิวเสี้ยนที่ทำง่ายได้ด้วยตัวเอง

สิวเสี้ยนริ้วรอยจุดด่างดำบนใบหน้า เราต้องรีบจัดการออก เพื่อความสวยงามของตัวเราเอง ด้วยขั้นตอนง่ายๆดังนี้




1.ให้เปิดรูขุมขนก่อน ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นๆ บิดพอหมาดๆ มาคลุมบนใบหน้าแล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที

2. เร่งสิวให้หลุดออกง่ายๆนำคลีนซิ่งออยส์ไปผสมกับเกลือขัดผิว  แล้วนำไปทาให้ทั่วบนใบหน้าหรือบริเวณที่ต้องการกำจัดสิวออก ใช้นิ้วนวดเบาๆประมาณ 2-3 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

3.สูตรพอกหน้า เอาน้ำตาลทรายผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ  จะได้ครีมแบบเข้มข้นนำมาพอกหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที  จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดหน้าให้แห้ง


มาเข้าสู่ขั้นตอนกำจัดสิวเสี้ยนกันดีกว่าเลือกทำตามสูตรด้านล่างสะดวกแบบไหนทำแบบนั้นได้เลย

สูตรที่ 1 ใช้ไข่ขาว + น้ำผึ้ง + น้ำมะนาว + กระดาษซับมัน  เอาไข่ขาวไปผสมรวมกันกับน้ำผึ้งและมะนาว เมื่อได้แล้วให้ทาบางๆทั่วหน้ายกเว้นปากและขอบตา ใช้กระดาษซับมันมาแปะลงบริเวณที่ทาไข่ขาว ทิ้งไว้จนแห้งแล้วค่อยลอกออก  สิวเสี้ยนจะหลุดติดออกมากับกระดาษซับมัน

สูตรที่ 2 ใช้ผงเจลาติน+ นมสด ให้เอาทั้งสองอย่างมาผสมรวมกันในสัดส่วนที่เท่ากัน  จากนั้นนำเข้าเตาอบไมโครเวฟโดยใช้เวลาที่ 10 วินาที รอให้หายร้อนสักครู่ ขนาดพออุ่นๆนำมาทาบริเวณที่ต้องการลอกสิวออก ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วค่อยลอกออก  เนะนำให้เริ่มลอกจากคางขึ้นด้านจะเห้นว่าสิ่งที่หลุดติดมาคุณพึงพอใจอย่างแน่นอน เสร็จแล้วล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน

เพียงขั้นตอนงา่ยๆเเบบนี้สามรถทำเองได้ที่บ้าน เเละใบหน้าของคุรจะกลับมาสดใสอีกครั้งลองเอาไปทำกันดูได้นะคะ



www.konphenfai.com
www.facebook.com/jeawshop

สาวๆห้ามพลาด!! แนะนำสูตรรักษาฝ้า-กระ ด้วย หัวไชเท้า ทำได้เองง่ายๆที่บ้าน



สาวๆห้ามพลาด!! แนะนำสูตรรักษาฝ้า-กระ ด้วย หัวไชเท้า ทำได้เองง่ายๆที่บ้าน 

หัวไชเท้า เป็นผักที่หลายๆประเทศนิยมนำมาทำเป็นอาหาร เมนูหัวไชเท้า เช่น แกงจืด แกงส้ม ต้มจับฉ่าย ต้มจืดหัวไชเท้า ขนมหัวผักกาด สลัดหัวผักกาด ยำหัวผักกาด เป็นต้น
ประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทองเชื่อว่ามีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวลเหมือนคนหนุ่มสาวเป็นผักสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่เป็นหวัด มีอาการไอ คออักเสบเรื้อรังและมีเสียงแหบแห้ง ด้วยการนำหัวไชเท้าสดมาล้างให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้ในขวดแก้ว หลังจากนั้นโรคน้ำตาล 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วปิดฝาทิ้งไว้ 1 คืนแล้วรินน้ำดื่มเป็นประจำ

นอกจากนั้น หัวไชเท้ายังรักษาฝ้ากระ ได้อีกด้วย วิธีทําหัวไชเท้า อย่างแรกให้นำหัวไชเท้ามาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วหั่นบางๆ หลังจากนั้นนำไปปั่นพอละเอียดแล้วใส่น้ำมะนาว 1 ช้อนแกงแล้วปั่นในโถอีกครั้งเป็นอันเสร็จ

วิธีพอกหน้าด้วยหัวไชเท้าให้นำมาทาให้ทั่วผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก หากทำเป็นประจำจะช่วยลดฝ้ากระให้จางลงได้

หัวไช้เท้าพอกหน้า การรักษาหน้าด้วยหัวไชเท้าอีกสูตร วิธีพอกหน้าด้วยหัวไชเท้า อย่างแรกให้นำหัวไชเท้ามาล้างให้สะอาดไม่ต้องปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้น เล็กๆประมาณ 2 ช้อนโต๊ะใส่ลงไปในโถปั่น แล้วใส่จมูกข้าวสาลีตามลงไป 1 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วปั่นจนละเอียดเป็นอันเสร็จ แล้วนำมาพอกบริเวณใบหน้า หรือพอกตามตัวเป็นเวลาประมาณ 15 นาทีแล้วจึงล้างออก ควรทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง

สำหรับ บางคนการใช้ในช่วงระยะแรกอาจจะมีอาการแสบแดงบ้างเล็กน้อย ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติ หากทำไปสักระยะก็จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ มีผู้เป็น กระ ฝ้า ที่เกิดจาก กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน หรือจากพิษสะสมในร่างกาย อาจต้องรักษาวิธีอื่นควบคู่กันไป


www.konphenfai.com
www.facebook.com/jeawshop

สาวๆห้ามพลาดเลยนะ!! เผยเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวเสี้ยน..ด้วยไข่ขาวกับมะนาว!



สาวๆห้ามพลาดเลยนะ!! เผยเคล็ดลับหน้าใสไร้สิวเสี้ยน..ด้วยไข่ขาวกับมะนาว!

สิวเสี้ยน เป็นเหมือนขยะหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งยังตกค้างอยู่ในรูขุมขน มักเกาะกลุ่มอยู่ตรงส่วนที่มีความมันเช่นหน้าผาก จมูก และคาง เรามีวิธีง่ายๆ ในการกำจัดสิวเสี้ยนที่คุณสามารถทำได้เองที่บ้าน ด้วยวัตถุดิบพื้นฐานง่ายๆ จากในครัวอย่างไข่ขาวและมะนาวมาฝาก

อุปกรณ์และส่วนผสม

• โฟมสครับผิว
• ไข่ขาว
• มะนาว
• กระดาษเช็ดปาก

Step 1 : ใช้โฟมหรือสบู่เหลวล้างหน้าทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด จากนั้น ใช้โฟมสครับผิวขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขนอีกที ขัดผิววนเป็นวงกลม แล้วล้างออกให้สะอาด

Step 2 : เทน้ำร้อนจัดลงในหม้อหรือชามใบใหญ่ หรืออาจเปิดน้ำร้อนในอ่างล้างหน้า ก้มหน้าลงเพื่อให้ไอน้ำร้อนช่วยเปิดรูขุมขน เพื่อให้การมาส์กได้ผลดียิ่งขึ้น

Step 3 : ผสมน้ำมะนาว 1/4 ถ้วย กับไข่ขาวล้วน 2 ฟองในชาม ผสมให้เข้ากัน

Step 4 : ทาส่วนผสมลงบางๆ บนใบหน้า เน้นส่วนที่ต้องการกำจัดสิวเสี้ยนมากเป็นพิเศษ

Step 5 : ตัดแบ่งกระดาษเช็ดปากเป็นสี่เหลี่ยมทั้งหมด 5 ชิ้น แล้วแปะลงบนหน้าผาก จมูก คาง และแก้มทั้งสองข้าง กระดาษเช็ดปากจะติดแน่นบนผิวหน้า ปล่อยทิ้งไว้จนกระดาษเริ่มแข็งตึง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

Step 6 : ค่อยๆ ลอกกระดาษเช็ดปากออก จะเห็นว่ามีสิวเสี้ยนติดออกมาด้วย จากนั้น ล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจัดเพื่อปิดรูขุมขนค่ะ

T i p s  :  


มะนาวมีกรดอัลฟาไฮดร็อกไซด์ที่มีสารขัดผิวตามธรรมชาติและรักษาสิว สามารถจัดการกับสิวเสี้ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนไข่ขาวนั้นมีส่วนช่วยตรึงอิลาสตินในผิว ทำให้รูขุมขนกระชับ และยังดูดซับน้ำมันส่วนเกินในผิว ที่สำคัญยังช่วยบำรุงผิวที่เริ่มมีริ้วรอยได้อีกด้วย


www.konphenfai.com
www.facebook.com/jeawshop

นี่คือความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลังคุณดื่มน้ำมะพร้าวติดต่อกันครบ 7 วัน



นี่คือความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลังคุณดื่มน้ำมะพร้าวติดต่อกันครบ 7 วัน

น้ำมะพร้าวมีสรรพคุณวิเศษตามที่หลายคนกล่าวอ้างจริงหรือไม่? คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับสารพัดประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว แต่คราวนี้คุณจะได้อ่านเกี่ยวกับข้อดีของน้ำมะพร้าวที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน 

คุณอาจไม่รู้ว่าน้ำมะพร้าวมีโครงสร้างที่เข้ากันได้ดีกับพลาสม่าที่อยู่ในกระแสเลือดของมนุษย์เรา ยิ่งไปกว่านั้นน้ำมะพร้าวยังเคยถูกนำมาใช้ในยามสงครามเพื่อชดเชยเลือดที่สูญเสียไปและสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้อีกมากมาย

ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากน้ำมะพร้าวอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก คุณสามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไปและคุณจะทึ่งกับประโยชน์อันมหาศาลของผลไม้ประเภทนี้ แม้น้ำมะพร้าวจะมีรสชาติไม่อร่อยอย่างที่คิด แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เราจะไม่ดื่มสุดยอดน้ำล้างพิษชนิดนี้แน่นอน

จะเกิดอะไรขึ้นบ้างถ้าเราดื่มน้ำมะพร้าว?

ระบบภูมิคุ้มกันของเราก็จะแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ โรคหนองใน โรคเหงือก และไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหวัด โรคติดเชื้อต่างๆ และโรคไข้รากสาดใหญ่ได้อีกด้วย นอกจากจะเสริมสร้างพลังงานแล้วน้ำมะพร้าวยังช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ แถมยังดีต่อผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตเนื่องจากมันมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะโดยธรรมชาติ ทั้งทางเดินปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะจะได้รับการชำระล้างจากนั้นร่างกายจะขับสารพิษออกมา 

ที่น่าทึ่งคือมันสามารถสลายก้อนนิ่วได้ด้วย และเนื่องด้วยมีปริมาณเส้นใยอาหารสูงจึงดีต่อระบบย่อยอาหาร หากคุณดื่มน้ำมะพร้าวเป็นประจำมันจะไปกำจัดกรดในกระเพาะอาหาร ไม่ต้องห่วงเรื่องอ้วนด้วยเพราะน้ำมะพร้าวมีระดับไขมันที่ต่ำมากและช่วยลดความอยากอาหารของเรา

หากคุณมีสิวและผิวแห้งหรือผิวมัน เพียงใช้ผ้าชุบน้ำมะพร้าวและทาลงไปบนผิวหนัง น้ำมะพร้าวจะชำระล้างสิ่งสกปรกและทำให้ผิวหนังสดชื่น ที่สำคัญมันจะช่วยเปิดรูขุมขน หากดื่มน้ำมะพร้าวผสมกับน้ำมันมะกอกก็สามารถฆ่าเชื้อโรคและกำจัดปรสิตในลำไส้ได้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการดื่มน้ำมะพร้าวขณะตั้งครรภ์จะช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง 

หากดื่มวันละหนึ่งแก้วทุกเช้าจะช่วยรักษาระดับความสมดุลของอิเล็กโทรไลต์และไม่ทำให้เป็นโรคความดันโลหิตสูง หากคุณดื่มแอลกอฮอล์ในตอนกลางคืนพอเช้ามาคุณอาจรู้สึกปวดศีรษะ ดังนั้นถ้าต้องการกำจัดอาการปวดศีรษะหรืออาการเมาค้างและชดเชยของเหลวที่สูญเสียไปคุณสามารถทำได้ด้วยการดื่มน้ำมะพร้าว ขณะเดียวกันถ้าคุณต้องการให้ผิวชุ่มชื่นและเปล่งปลั่งตลอดทั้งวัน การดื่มน้ำมะพร้าววันละแก้วก็เพียงพอแล้ว

นอกจากนี้หลังจากที่ออกกำลังกายมาอย่างเหน็ดเหนื่อยคุณสามารถดื่มน้ำมะพร้าวเพื่อให้ร่างกายของคุณกลับมามีพลังอีกครั้ง ทั้งช่วยเพิ่มพลังงาน เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันแบคทีเรียและอาการติดเชื้อต่างๆ ตามด้วยน้ำหนักลด คุณยังต้องการอะไรอีกไหม?


www.konphenfai.com
www.facebook.com/jeawshop

4 ข้อ บอกได้ ทำไม “น้ำหนักไม่ลดสักที”

หลายคนอาจแปลกใจว่าตัวเองก็ตั้งใจลดน้ำหนักดีแล้ว ทั้งควบคุมอาหาร ทั้งออกกำลังกาย แต่ทำไมน้ำหนักตัวจึงไม่ยอมลดลงสักที ถ้าเป็นแบบนั้นลองมาสำรวจกันหน่อยดีไหมว่า คุณกำลังทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า น้ำหนักจึงไม่ลง


1.คุมอาหารจนเกินพอดี

รู้หรือไม่ว่า… หากเราควบคุมอาหารมากเกินไป จะส่งผลเสียทำให้ฮอร์โมนเลปตินต่ำ เนื่องจากร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีต่อวันน้อย จึงส่งผลให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายต่ำไปด้วย อีกทั้งยังทำให้ความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ทางที่ดีลองปรับในเรื่องของการกินให้เหมาะสมแบบไม่มาก หรือไม่น้อยเกินไปจะดีกว่า

2.ไม่ได้เน้นโปรตีน

ช่วงลดน้ำหนัก โปรตีนจะเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งหากร่างกายได้รับในปริมาณที่เพียงพอ จะทำให้ระบบการเผาผลาญพลังงานในร่างกายสูงขึ้น ไขมันถูกนำออกมาใช้มากขึ้น แถมการรับประทานโปรตีนอย่างเหมาะสม จะทำให้ร่างกายสามารถสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริโภคโปรตีนที่เหมาะสมก็คือ น้ำหนักตัว 1 กิโล ต่อโปรตีน 1 กรัม หากทานโปรตีนน้อยกว่านี้ก็จะมีผลต่อระบบเผาผลาญแน่นอน

3.คาร์ดิโอมากไป

ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายด้วยการคาร์ดิโอ จะเป็นวิธีออกกำลังกายลดน้ำหนักที่ช่วยทำให้ร่างกายสามารถนำพลังงานในแต่ละวันออกมาใช้ได้มาก แต่การคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการลดน้ำหนัก ทางที่ดีเพิ่มความหลากหลายให้มากขึ้น ด้วยการฝึกกล้ามเนื้อร่วมกับการทำคาร์ดิโอ ก็จะทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งได้ผลในระยะยาวอย่างแท้จริง

4.ยังคงเครียดง่ายๆ

รู้หรือเปล่าว่าการควบคุมความเครียดก็เป็นสิ่งสำคัญต่อการลดน้ำหนัก เพราะขณะที่กำลังเครียดอยู่ ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา และจะทำหน้าที่ในการกักเก็บไขมันไว้ในร่างกาย น้ำหนักตัวจึงไม่ลดสักที แถมยังทำให้การสร้างกล้ามเนื้อไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้น ร่าเริงเข้าไว้

รู้แบบนี้แล้วก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเสียใหม่ เพื่อการลดน้ำหนักอย่างได้ผลและหุ่นที่ผอมเพรียวยิ่งขึ้น